วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556
สัปดาห์ที่13
การจัดสภาพแวดล้อมเพื่อสร้างประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
-สภาพแวดล้อมให้เด็กได้คุ้นเคยกับการใช้ภาษาอย่างมีความหมายขององค์รวม
-เด็กได้ทำกิจกรรมที่สงเสริมทัดษะทางภาษาโดยใช้เนื้อหาทางภาษา
หลักการและความสำคัญของการจัดสภาพแวดล้อม (หรรษา นิลวิเชียน,2535)
-สอดคล้องกับวิชาการเรียนรู้ของเด็ก สงเสริมให้เด็กสำรวจ ปฏิบัติจริงเป็นผู้กระทำด้วยคนเองโดยเปิดอิสระให้เด็ก
-สิ่งแวดล้อมที่สงเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับบุคคลรอบข้าง เด็กควรได้สื่อสารสองทาง
-สิ่งแวดล้อมที่เน้นความหมายมากกว่ารูปแบบควรยอมรับการสื่อสารของเด็กในรูปแบบต่างๆโดยคำนึงถุงความหมายที่เด็ฏต้องการสื่อสารมากกว่าความถูกต้องทางไวทยากรณ์
-สิ่งแวดล้อมที่ประกอบด้วยความหลากหลายทั้งด้สนวาจาและไม่ใช่วาจาเด็กควรได้รับการมีประสบการณ์และปฏิบัติหลายๆรูปแบบ
มุมประสบการณ์ที่สนับสนุนการเรียนรู้และสาระทักษะทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
. มุมหนังสือ
.มุมบทบาทสมมติ
.มุมศิลปะ
.มุมดนตรี
ฯลฯ
ลักษณะของการจัดมุมในชั้นเรียนที่สงเสริมทักษะทางภาษา
-มีพื้นที่ให้เด็กสามารถทำกิจกรรมได้
-เด็กรู้สึกผ่อนคลาย
-บริเวณใกล้ๆมีอุปกรณ์เครื่องเขียนเช่นดินสอ สี กระดาษ กรรไกร กาว
-เด็กมีส่วนในการวางแผนออกแบบ
มุมหนังสือ
- มีชั้นวางหนังสือประเภทต่างๆที่เหมาะสม
- มีบรรยากาศที่สงบอบอุ่น
- มีพื้นที่ในการอ่านกหนังสือลำพังและเป็นกลุ่ม
- มีอุปกรณ์สำหรับเขียน
มุมบทบาทสมมติ
- มีอุปกรณ์ที่สามารถให้เด็กดข้าไปเล่นได้
- มีพื้นที่เพียงพอ
มุมศิลปะ
- มีวัสดุอุปกรณ์หลากหลายเช่น ดินสอ สี ยางลบ ตรายาง ฯลฯ
- อกรรไกรไว้สำหรับงานตัดและปะติด
- มีพื้นที่เด็กได้จัดกิจกรรม
มุมดนตรี
- มีเครื่องดนตรีทั้งเป็นของเล่นและของจริง เช่นกลอง ฉิ่ง ระนาด ฯลฯ
- สื่อจริง
- สื่อจำลอง
- ภาพถ่าย
- ภาพโครงร่าง
- สัญลักษณ์
สัปดาห์ที่12
วันศุกร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 12 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
อาจารสอนให้ร้องเพลงพร้อมท่าเต้นเพลงหนอนผีเสืื้อ
ต้วมต้วม เตี้ยมเตี้ยม ออกมาจากไข่ เจ้าหนอนตัวใหญ่ลูกใครกันหนอ
กระดึ๊บ กระดึ๊บไป กระดึ๊บ กระดึ๊บไป กระดึ๊บ กระดึ๊บไป กระดึ๊บ กระดึ๊บไป
กระดึ๊บ ดึ๊บไป บนใบไม้อ่อน กัดกัด กินกิน อิ่มแล้วก็นอน แล้วเจ้าหนอน ก็ชักใยหุ้มตัว
กระดึ๊บ กระดึ๊บ กระดึ๊บ ดึ๊บ ดึ๊บ
จากนั้นก็ให้จับกลุ่ม กลุ่มล่ะ 5 คน ให้ช่วยกันคิดเพื่อทำสื่อการศึกษา
ซึ่งกลุ่มดิฉันทำเรื่องป้ายคำศัพท์ โดยบอก
1.วัตถุประสงค์
สัปดาห์ที่11
ภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
ความหมาย
วัสดุอุปกรณ์หรือวิวัฒนาการณ์ เพื่อกระตุ้นส่งเสริม จูงใจ ให้เด็กสนใจ ด้วยเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนรู้
เป็นเครื่องมือที่ครูกำหนดเพื่อถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเนื้อหา ประสบการณ์ แนวคิด ทักษะ เจตคติ
ความสำคัญของสื่อ
-เด็กเรียนรู้การใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
-เข้าใจง่าย
-เป็นรูปธรรม
-จำได้ง่าย และ เร็ว
ประเถทของสื่อ
1 สื่อสิ่งพิมพ์
คือใช้วิธีการพิมพ์ เด้กได้เรียนรู้ อักษร ประโยชน์เช่น นิทาน หนังสือพิมพ์ ฯลฯ
2 สื่อวัสดุอุปกรณ์
คือ ของวัสดุต่างๆ ของจริง หุ่นจำลอง แผนที่ แผนภูมิ ตารางสถิติ กราฟ สมุดภาพ ฯลฯ
3 สื่อโสตทัศนูปกรณ์
คือสื่อที่นำเสนอด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นแผ่น ไอแพด ฯลฯ
4 สื่อกิจกรรม
คือวิธีการที่ใช้การฝึกปฏิบัติ ทักษะ ใช้กระบวนการคิด การปฏิบัติการเผชิญสถานการณ์
5 สื่อบริบท
คือสื่อส่งเสริมดารจัดประสบการณ์ สภาพแวดล้อม ห้องเรียน บุคคล ชุมชน วัฒนธรรม
สัปดาห์ที่10
กิจกรรมอาเซียน
กลุ่ม 1 หุ่นนิ้วมือ
ข้อดี
- สามารถนำมาร้องเพลงได้
- สามรถนำมาเล่านิทานได้
ข้อเสีย -
กลุ่ม 2 ภาพชัก
ข้อดี
- สามารถนำมาเป็นสื่อสอนเรื่องประเทศต่างๆในอาเซียน
- สามรถนำมาเล่านิทานเกี่ยวกับปนะเทศในอาเซียนได้
ข้อเสีย
- การเจะรูร้อยเอ็นควรประมาณให้ดีเพราะบางครั้งมันจะบังรูปเราได้
- การมัดเอ็นหย่อนเกินไปทำให้หลุดได้
กลุ่ม 3 ป๊อปอัพอาเซียน
ข้อดี
- สามารถนำมาเล่านิทานได้
ข้อเสีย
- ปัยหาการพับปากถ้าพับไม่ดีมันจะขาด
กลุ่ม 4 จับคู่ภาพ
ข้อดี
- นำไปใช้พัฒนาการด้สนภาษาเช่น ภาษากับธงชาติ
- เรียนรู้เรื่องสีต่างๆ
ข้อเสีย -
ข้อดี
- สามารถนำมาร้องเพลงได้
- สามรถนำมาเล่านิทานได้
ข้อเสีย -
กลุ่ม 2 ภาพชัก
ข้อดี
- สามารถนำมาเป็นสื่อสอนเรื่องประเทศต่างๆในอาเซียน
- สามรถนำมาเล่านิทานเกี่ยวกับปนะเทศในอาเซียนได้
ข้อเสีย
- การเจะรูร้อยเอ็นควรประมาณให้ดีเพราะบางครั้งมันจะบังรูปเราได้
- การมัดเอ็นหย่อนเกินไปทำให้หลุดได้
กลุ่ม 3 ป๊อปอัพอาเซียน
ข้อดี
- สามารถนำมาเล่านิทานได้
ข้อเสีย
- ปัยหาการพับปากถ้าพับไม่ดีมันจะขาด
กลุ่ม 4 จับคู่ภาพ
ข้อดี
- นำไปใช้พัฒนาการด้สนภาษาเช่น ภาษากับธงชาติ
- เรียนรู้เรื่องสีต่างๆ
ข้อเสีย -
สัปดาห์ที่6
เพลงกล่อมเด็ก
ลักษณะสำคัญ
- เป็นบทร้อยกรองสั้นๆ มีคำคล้องจองต่อเนื่องกันไป
- มีฉันทลักษณ์ไม่แน่นอน
- ใช้คำง่ายๆสั้นหรือยาวก็ได้
- มีจังหวะในการร้องและทำนองที่เรียบง่าย สนุกสนาน จดจำได้ง่าย
จุดมุ่มหมายของเพลงกล่อมเด็ก
1 ชักชวนให้เด็กนอนหลับ
2 เนื้อความแสดงถึงความรัก ความห่วงใย ความหวงแหนของแม่ที่มีต่อลูก
1 ชักชวนให้เด็กนอนหลับ
2 เนื้อความแสดงถึงความรัก ความห่วงใย ความหวงแหนของแม่ที่มีต่อลูก
สัปดาห์ที่5
- ความสำคัญของภาษา
- พัฒนาการสติปํญญาของเด็กอายุ2-4 ปี
- พัฒนาการสติปัญญาขอเด็ดอายุ4-6ปี
- ทฤษฎีจิตวิทยาการรเรียนรู้
- องค์ประกอบของภาษา
การจัดประสบการณ์ทางภาษา
ทักษะการใช้ภาษา
1 บอกสิ่งของที่รักและเหตุผล
เป็นการให้เหตุผลเเบบอุปนัยเนื่องจากการให้เหตุผลแบบอุปนัยเป็นการสรุปผลเกิดจากหลักฐานข้อเท็จจริงที่มีอยู่ ดังนั้นการหาข้อสรุปหรือความจริงโดยใช้วิธีการให้เหตุผลแบบอุปนัยนั้น ไม่จำเป็นต้องถูกต้องทุกครั้ง ข้อสรุปจะเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูล หลักฐานและข้อเท็จจริงที่นำมาอ้างซึ่งได้แก่ จำนวนข้อมูล และ ข้อมูล
2 การโฆษณาสินค้า
การโฆษณา มีความจำเป็นต้องใช้ภาษาที่ดึงดูดความสนใจของคนอ่านคนฟัง นักโฆษณาจึงมักคิดค้นถ้อยคำ สำนวนภาษาแปลก ๆ ใหม่ ๆ นำมาโฆษณาอยู่เสมอ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนซื้อ ในขณะเดียวกันการโฆษณาต้องใช้ภาษาที่ง่าย ๆ กะทัดรัด ได้ใจความชัดเจนดี น่าสนใจ ให้ทันเหตุการณ์ รวดเร็ว มีเสียงสัมผัสคล้องจอง จดจำได้ง่ายด้วย จึงมีถ้อยคำเกิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ
1. เรียกร้องความสนใจคือเลือกใช้ภาษาที่ง่าย สุภาพ กระตุ้นความรู้สึกของลูกค้า
2. ให้ความกระจ่างแก่ลูกค้าเป็นการใช้ภาษาที่ง่ายชัดเจนในการกล่าวถึงคุณภาพของสินค้าหรือบริการ
3. ให้ความมั่นใจ เป็นการอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ
4. ยั่วยุให้เกิดการตัดสินใจ เป็นการใช้ถ้อยคำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการโดยเร็วที่สุด
3การประชาสัมพันธ์ หมายถึง การสื่อสารความคิดเห็นข่าวสารข้อเท็จจริงต่างๆไปสู่กลุ่มประชาชน เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างหน่วยงานองค์การสถาบันกับกลุ่ม ประชาชนเป้าหมายและประชาชนที่เกี่ยวข้องเพื่อหวังผลในความร่วมมือ สนับสนุนจากประชาชนรวมทั้งมีส่วนช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีให้แก่หน่วยงาน องค์การ สถาบันด้วย ทำให้ประชาชนเกิดความนิยมเลื่อมใสศรัทธาต่อหน่วยงานตลอดจนค้นหาและกำจัดแหล่งเข้าใจผิดช่วยลบล้างปัญหาเพื่อสร้างความสำเร็จในการดำเนินงานของหน่วยงานนั้น
4 การเล่าข่าว
1. การใช้ภาษาพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์1.1 การใช้คำตัดสั้นหรือกร่อนคำ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ คือความกว้างยาวของคอลัมน์ข่าว ทำให้การใช้คำพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ต้องตัดให้สั้นหรือย่นย่อลงเพื่อกระชับคำให้พิมพ์ลงในเนื้อที่ที่จำกัดได้ เช่น หนุน ใช้แทน สนับสนุน ยัน ใช้แทน ยืนยัน มะกัน ใช้แทน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
1.2 การละประธานของประโยค การพาดหัวข่าวนิยมเขียนประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำกริยา เพื่อบอกผู้อ่านว่าเกิดอะไรขึ้น ละประธานของประโยคในฐานะที่เข้าใจได้ โดยเฉพาะเมื่อความสำคัญของเรื่องที่เป็นข่าวไม่ได้อยู่ที่ประธานของประโยค เพื่อให้ผู้อ่านอ่านรายละเอียด
ในความนำหรือเนื้อเรื่องของข่าวต่อไป
1.3 การละเว้นคำเชื่อม คำสันธาน หรือส่วนที่ขยายประโยค นอกจากการละประธาน
ของประโยคแล้ว พาดหัวข่าวมักจะใช้ประโยคเดี่ยวมากกว่าประโยคซ้อน การใช้ภาษาจึงหลีกเลี่ยงคำเชื่อม และส่วนขยายประโยคที่ไม่จำเป็น เช่น คำว่า “อีกทั้ง” “ซึ่ง” “กับ” “ต่อ” เป็นต้น แต่ทั้งนี้ส่วนที่ละไว้ต้องไม่ทำให้ประโยคเหล่านี้มีความหมายผิดเพี้ยนไป
1.4 การใช้คำสแลง คำเฉพาะสมัย หรือคำที่สร้างภาพลักษณ์เกินจริง พาดหัวข่าวต้องดึงดูดความสนใจคนอ่านร่วมสมัย ดังนั้นภาษาที่ใช้จึงเป็นคำที่อยู่ในกระแสความนิยม มีสีสัน
เกินจริง คำสแลง หรือภาษาเฉพาะสมัยในรูปแบบต่าง ๆ ที่เป็นภาษาสนทนา หรือคำแสดงภาพพจน์ รวมทั้งสร้างคำใหม่ ๆ ขึ้นมาใช้ เช่น วัยจ๊าบ ซึ่งหมายถึงวัยรุ่น สาวอยากอึ๋ม ซึ่งหมายถึงผู้หญิง ที่ต้องการมีหน้าอกใหญ่ขึ้น วืด หรือ ชวด ซึ่งหมายถึงพลาดเป้าหมายหรือไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวังไว้ เป็นต้น
1.5 การใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของบุคคล เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสีสันให้พาดหัวข่าว
เพื่อดึงดูดความสนใจคนอ่าน ชื่อเล่นของบุคคลหรือฉายาที่ตั้งให้ใหม่นั้นมักสั้นกว่าชื่อจริง ทำให้พาดหัวข่าวกระชับและสั้นลง สามารถพิมพ์ลงในคอลัมน์ที่มีความกว้างยาวจำกัดได้ แต่ทั้งนี้
มักเป็นชื่อเรียกหรือฉายาที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปเพื่อไม่ให้ผู้อ่านสับสน
2. การใช้ภาษาความนำข่าวหนังสือพิมพ์
ลักษณะการใช้ภาษาในความนำข่าวจะแตกต่างจากพาดหัวข่าวดังนี้
2.1 การใช้ประโยคสมบูรณ์แบบสั้น กระชับ ได้ใจความ ความนำข่าวที่ดีไม่ควรยืดยาวเกิน และไม่จำเป็นต้องเขียนรายละเอียดทั้งหมดในย่อหน้าเดียวก็ได้ แต่ควรเน้นประเด็นสำคัญ
ที่ผู้อ่านอยากรู้มากที่สุดเป็นหลัก นอกจากนี้การใช้ประโยคสั้นกระชับ มีผลทำให้การใช้คำตัดสั้น คำย่อ หรือการกร่อนคำ ในความนำข่าวจะไม่ละประธานของประโยค คำเชื่อม หรือส่วนขยายต่าง ๆ เพราะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนบรรทัดและความกว้างยาวของคอลัมน์ ดังนั้นการเขียนความนำส่วนใหญ ่จึงมักเขียนในรูปประโยคที่สมบูรณ์
2.2 การใช้คำแสดงภาพลักษณ์ และภาษาเฉพาะสมัย ความนำข่าวมีจุดประสงค์ดึงดูดความสนใจของคนอ่านให้อยากติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องจนจบ ดังนั้นจึงใช้ภาษาแสดงภาพลักษณ์หรือให้สีสันเกินจริง ตลอดจนคำสแลงหรือภาษาเฉพาะ สมัยสอดแทรกไว้คล้ายในพาดหัวข่าว และมักพบในข่าวเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่มีความเคลื่อนไหว มุ่งเร้าอารมณ์ผู้อ่าน เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวอุบัติเหตุ ข่าวสงคราม เป็นต้น
2.3 การใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของบุคคล เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน จึงมีการใช้ฉายา หรือชื่อเล่นบุคคลที่เป็นข่าวเหมือนกับที่ใช้ในพาดหัว แต่หนังสือพิมพ์เชิงคุณภาพ มักจะใช้ภาษาลักษณะนี้ ในความนำข่าวน้อยกว่าโดยเฉพาะข่าวหนัก อาทิ ข่าวการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ หรือข่าวสิ่งแวดล้อม จะมีการใช้ฉายาหรือชื่อเล่นของบุคคลในข่าวน้อยกว่าเมื่อเทียบกับข่าวสังคม ข่าวกีฬาและข่าวบันเทิงที่เป็นข่าวเบา
2.4 การใช้ภาษาสนทนา โดยทั่วไปภาษาข่าวมักเป็นภาษากึ่งทางการหรือกึ่งแบบแผน แต่อาจใช้ภาษาสนทนา หรือภาษาพูดแทนภาษาเขียน ส่วนใหญ่มักพบในความนำข่าวที่หยิบยกคำพูด ของบุคคลที่ตกเป็นข่าวมาเขียนเป็นความนำ เพื่อสะท้อนอารมณ์ของเรื่อง หรือแสดงความรู้สึก ของบุคคลที่เป็นข่าวได้
3. การใช้ภาษาเนื้อข่าวหนังสือพิมพ์
3.1 ลักษณะเนื้อหาข่าว แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
3.1.1 แบบให้ข้อเท็จจริง (Fact story) ใช้ภาษาเขียนแบบอธิบายความ หรือบรรยายข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้น การใช้ภาษานิยมใช้เชิงบรรยายโวหาร และกึ่งทางการ เหมาะสำหรับข่าวที่มีข้อมูลมาก เช่น รายงานผลการประชุมคณะรัฐมนตรี การประกาศนโยบายของรัฐ รายงานการวิจัยทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตัวเลขสถิติ ข้อมูล งบประมาณ ตลาดหุ้น เป็นต้น
3.1.2 แบบแสดงการเคลื่อนไหว (Action story) เป็นการเขียนที่เหมาะกับข่าว หรือเหตุการณ์ที่มีความเคลื่อนไหว มักใช้ภาษาเชิงพรรณนาให้เห็นภาพเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรม ข่าวสงคราม การแข่งขันกีฬา เหตุอุทกภัย เพลิงไหม้ ระเบิด หรืออุบัติเหตุ เป็นต้น
3.1.3 แบบกล่าวอ้างคำพูด (Qoute story) เป็นการเขียนที่ใช้ภาษาสนทนามากกว่า
ภาษาเขียน เพราะเนื้อความข่าวแบบนี้อ้างอิงคำพูดของบุคคลในข่าวเป็นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับข่าวงานสัมมนา การสัมภาษณ์ การอภิปราย สาระของข่าวอยู่ที่คำพูดของบุคคลในข่าว
3.2 ลักษณะการใช้ภาษาในเนื้อข่าว
การใช้ภาษาในเนื้อข่าวแม้จะคล้ายความนำข่าวมากกว่าพาดหัวข่าวแต่ก็มีความแตกต่างบางประการดังนี้
3.2.1 ระดับภาษา เนื้อข่าวโดยทั่วไปใช้ภาษาเป็นทางการ แต่ข่าวแบบที่มีลีลาเคลื่อนไหวใช้ภาษากึ่งทางการและเขียนเชิงพรรณนามากกว่าบรรยายสอดแทรกในเนื้อเรื่องของข่าว เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจหรือเห็นภาพเหตุการณ์ได้มากขึ้น ส่วนภาษาสนทนาตลอดจนภาษาสแลง
คำเฉพาะสมัยที่ใช้ในการสนทนาระหว่างบุคคลที่คุ้นเคย จะพบในรายงานข่าวบางประเภทที่เป็นไปเพื่อความบันเทิง และความ เร้าใจ เช่น ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ข่าวสังคม เป็นต้น
3.2.2 รูปแบบประโยค แม้เนื้อข่าวจะเป็นส่วนที่ให้รายละเอียดทั้งหมดของสิ่งที่ควรปรากฏเป็นข่าว แต่ผู้สื่อข่าวไม่ควร เขียนให้เยิ่นเย้อ มากเกินความจำเป็นจนกลายเป็นบทพรรณนา นิยมใช้ประโยคสั้นมากกว่า ประโยคยาว หรือประโยคซ้อน ขณะเดียวกันก็ไม่นิยมใช้คำตัดสั้น คำกร่อน หรือคำย่อที่ไม่เป็นไปตามแบบแผน หากเป็นคำใหม่ก็ใช้คำเต็มและวงเล็บคำย่อตามหลังในการใช้ครั้งแรก จากนั้นก็ใช้คำย่อในการเขียนครั้งต่อไป
3.2.3 การใช้ภาษาเชิงวิพากษ์ ข่าวเป็นการรายงานข้อเท็จจริง จึงควรหลีกเลี่ยงภาษา
เชิงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ว่าลักษณะใด ๆ เช่น กระทบกระเทียบ ประชดประชัน เสียดสี เนื่องจากผิด คุณลักษณะข่าวที่ถูกต้อง
ที่มา http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter8-4.html
5.การเล่าจากภาพ
เป็นการถ่ายทอดความคิดในการออกแบบจากสิ่งที่เป็นนามธรรม ให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิดในการออกแบบนั้น
วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
สัปดาห์ที่3
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
วันศุกร์ ที่ 28มิถุนายน พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 3 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
อาจารย์ผู้สอน จินตนา สุขสำราญ
รับน้อง!!!
ศึกษาศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย
___________________________________________________________________________________
สัปดาห์ที่2
วิชา การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
วันศุกร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 2 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
อาจารย์ผู้สอน จินตนา สุขสำราญ
แบ่งกลุ่มทำงานตามหัวข้อดังนี้
1 ภาษา
2 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา
3 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา แรกเกิด-2 ปี
4 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา 3-4 ปี
5 ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา 4-6 ปี
6 ทฤษฎีจิตวิทยาการเรียนรู้
7 วิธีการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
8 องค์ประกอบของภาษาทางด้านภาษา
กลุ่มที่ 9 หลักการจัดประสบการณ์
ไปศึกษาข้อมูลที่ห้องสมุด และนำเสนอในสัปดาห์ต่อไป
_____________________________________________
สัปดาห์ที่1
วิชา
การจัดประสบการณ์ทางภาษาสำหรับเด็กปฐมวัย
วันศุกร์
ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556
ครั้งที่ 1 เวลาเรียน 13.10-16.40 น.
อาจารย์ผู้สอน จินตนา สุขสำราญ
วิธีทำบล็อก Blogger
http://www.youtube.com/watch?v=P8wK2sONfQA
วิธีสร้าง Blogger
ขั้นที่ 1 การสมัครใช้งาน Blogger สามารถใช้ email ของระบบใดก็ได้ แต่ในระยะยาวแล้วการเชื่อมโยงกับบริการหลายๆอย่างของ google ควรจะใช้ email ของ Gmail ดีที่สุด
ดัง นั้นในขั้นแรกนี้ให้คุณเข้าไปที่ www.gmial.com เพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้กับ google
โดยในการสร้างบล็อกนั้น ก็ให้ใช้ บัญชีผู้ใช้ (user name + password) ที่ได้สร้างไว้ในขั้นที่ 1
แล้ว Click ที่ปุ่มดำเนินการต่อ
แต่การกำหนด URL จะต้องไม่ให้ซ้ำกับคนอื่น ๆ ถ้าซ้ำก็ใช้วิธีเปลี่ยนเป็นคำหรือวลีที่ใกล้เคียงไปเรื่อย ๆ
(การตั้งชื่อและ URL ของบล็อกควรมี keyword ที่สัมพันธ์กับเรื่องที่จะเขียนด้วย)
ขั้นที่ 5 ในขั้นสุดท้ายนี้เป็นการเลือกแม่แบบของบล็อก ให้เลือกแม่แบบใดก็ได้ครับ
เพราะเราจะมาทำการปรับแต่งแม่แบบได้ในภายหลัง ซึ่งผมได้เขียนบทความการเปลี่ยนแม่แบบเอาไว้รอท่านแล้ว
ขั้นที่ 6 ในขั้นตอนนี้เป็นการเลือกจัดการกับบล็อกที่สร้างขึ้น
คุณสามารถเข้าไปจัดการส่วนต่าง ๆ ของบล็อกได้จาก www.blogger.com หรือ draft.blogger.com
___________________________________________________________________________________
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)